สบู่ก้อนดีต่อสิ่งแวดล้อม

สมัยนี้เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะไม่ว่าใครก็ห่วงใยธรรมชาติ สบู่ก้อนดีต่อสิ่งแวดล้อมด้วย 2 เหตุผลหลักๆ คือ สบู่ก้อนช่วยลดการสร้างขยะพลาสติก และสบู่ก้อนมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆจากการผลิตที่น้อยกว่าการผลิตสบู่เหลวมาก และเมื่อพูดถึงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ จากการผลิต สบู่ก้อนนั้นมีน้ำหนักที่น้อยกว่าขวดพลาสติก นั่นหมายถึงการปล่อยมลพิษต่อหน่วยก็จะลดลงด้วย การใช้สบู่ก้อนจึงดีต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยโลกได้มากกว่า

ไม่มีปัญหาในการขึ้นเครื่องบิน

ทำไมสบู่ก้อนถึงมีความสำคัญเมื่อต้องใช้เดินทาง? เรื่องหนึ่งที่สำคัญเลยก็คือสบู่ก้อนเป็นของแข็งจึงไม่มีปัญหาในการนำขึ้นเครื่องตามมาตรฐาน TSA เพราะถ้าหากเป็นสบู่เหลวหรือของเหลวทั่วๆไปก็จะต้องมีกฎเกณฑ์มากมาย นอกจากเรื่องมาตรฐาน TSA แล้ว อีกกรณีที่น่าสนใจคือ สมมติว่าคุณต้องการเดินทางไปทั่วโลกเป็นเวลาสองเดือนโดยไม่มีสัมภาระอะไรนอกจากพกไว้ที่ตัว? ถ้าคุณใช้สบู่ก้อนจะไม่มีปัญหาสามารถพกเดินทางไปได้เลย แต่ถ้าใช้สบู่เหลวคุณจะสามารถใช้ได้ประมาณ 10 วันเท่านั้น

สบู่ก้อนไม่มีปัญหาการรั่วซึม

การรั่วซึมเป็นเหตุการณ์ปกติที่อาจเกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลวทุกชนิดไม่ใช่แค่สบู่เหลว และถ้ามันเคยเกิดขึ้นกับคุณ คุณจะทราบดีว่ามันเป็นปัญหามากมายขนาดไหนเวลาที่คุณเปิดเช็คกระเป๋าหลังจากลงเครื่องแล้วพบว่าสัมภาระของคุณถูกราดด้วยแชมพูหรือสบู่เหลวเต็มกระเป๋าไปหมด ซึ่งมันอาจเกิดจากบรรจุภัณฑ์ที่ไม่มีมาตรฐานหรือจากอุบัติเหตุใดๆก็ตาม ดังนั้นหลังเครื่องลงจอดแผนการเดินทางของคุณอาจพังได้ แต่ถ้าเป็นสบู่ก้อน ปัญหาเรื่องการไหลหรือเลอะกระเป๋า แทบจะไม่มีเลย

สบู่ก้อนอยู่ได้นานกว่า

ส่วนผสมหลักของสบู่ก้อนคือโซเดียมลอเรทซัลเฟต (Sodium Lauryl Sulfate) หรือที่รู้จักกันคือสารทำความสะอาด ในขณะที่ส่วนผสมหลักของสบู่เหลวคือน้ำ ถ้าเปรียบเทียบด้วยขนาดที่เท่าๆ กันสบู่ก้อนจะอยู่ได้นานกว่าสบู่เหลวประมาณ 3-5 เท่า แต่เนื่องจากขวดสบู่เหลวมักมีขนาดใหญ่กว่าสบู่ก้อน ดังนั้นในการเปรียบเทียบหน่วยต่อหน่วย สบู่เหลวที่มีขวดใหญ่กว่าก็จะอยู่ได้นานกว่าสบู่ก้อนนั่นเอง